ข้อคิดเห็นของบุคคลเป็นเอกสิทธิ์ และความรับผิดชอบของผู้นั้นแต่เพียงผู้เดียว ทาง websiteไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกกรณี อนึ่ง พื้นที่นี้เป็นเสมือนพื้นที่สาธารณะ บุคคลใดๆ ก็สามารถเข้ามาใช้ได้ จึงเป็นไปได้ที่จะมีผู้แอบแฝงมาเพื่อหาประโยชน์อันมิบังควร ดังนั้น
"โปรดใช้วิจารณญานในการที่จะติดต่อผู้หนึ่งผู้ใดเป็นการส่วนตัว เพื่อประโยชน์ของตัวท่าน"

  ปุจฉา-วิสัชนา เชิงวิชาการ 
0011 : จากคุณ สมพล     [124.157.154.70]     10 Feb 2008 - 15:31     [18 คำตอบ]
กาลจักร ลัคน์จร

ใครใช้บ้าง มาช่วยออกความเห็น หรือสิ่งที่ท่านค้นคว้า เพิ่มเติม  นอกจากตำรา

เชิญครับ


1. pykn..จะลองใช้    [125.24.182.175]     11 Feb 2008 - 10:37

เรียนท่านสมพล กรุณาโพสต์กาลจักร ลัคน์จร เป็น รายละเอียดในกระทู้นี้อีกที  เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลในการศึกษา เวลาปุจฉา-วิสัชนาเชิงวิชาการ  อยากทดลองใช้กับ10ลัคน์เหมือนกัน  โดยใช้ทดสอบกับดวงตัวเองก่อน แล้วจะมาเสวนากับท่าน ว่า กาลจักร-ลัคน์จร ใช้กับ10ลัคน์เป็นอย่างไร-ขอบคุณ


2. สมพล..จากของเก่าที่เล่าไว้    [222.123.80.196]     11 Feb 2008 - 11:27

สวัสดีครับทุกท่าน เนื่องจากที่ผ่านมา ผมได้ทำการศึกษาวิชาโหราศาสตร์และลองทำนายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งจากตนเองและผู้อื่น มาในระดับหนึ่ง ซึ่งยังไม่ถึงระดับสิบ

ซึ่งผมได้ใช้วิชาโหราศาสตร์ไทยในการทำนาย ซึ่งมีวิชาหนึ่งที่ผมได้ทำการทดสอบ ลองผิดลองถูกมาเป็นเวลา ๑ ปีกว่าๆ ซึ่งผลที่ได้ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งพอจะพึ่งพาอาศัยทายได้

ซึ่งผมใช้ ลัคน์จรแบบกาลจักร ในการร่วมทายกับ ดวงเดิม นั่นเอง รวมทั้งดวงจรด้วย

จากการสังเกต และทดลอง ได้ผลดังที่ตำราครูบาอาจารย์ท่านได้บันทึกไว้คือ

๑. ลัคน์จร หากทำการหาลัคน์แบบคิดสมผุสแล้ว ตกอยู่ที่ นวาง ตรียาง และราศีใด ให้ดูว่า นว. ตย. เจ้าราศี นั้น ในทักษาเดิม และ จร เป็นอะไร ผลที่เกิดกับบุคคลนั้นจะพาให้เขาต้องไปทำการหรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมเช่นนั้น ยกตัวอย่าง ลัคน์จร ตกใน นว. กาลี เดิม หรือจร จะเป็นช่วงที่ชีวิตของเขาไม่สงบสุข เป็นต้น

๒. ลัคน์จร หากไปตกที่ราศีใด ให้ดูว่าเป็นเรือนใดกับลัคน์ กับ ตนุเศษ หากอยู่ในทุสถานภพ คือ เรือน ที่ ๖ ๘ ๑๒ แก่ลัคน์ หรือ ตนุเศษ ช่วงนั้นเขาจะพาชีวิตไปพบกับเหตุการณ์ตามความหมายของเรือนนั้น แต่ เราต้องดูทักษาของดาวเจ้าเรือนด้วย ว่าเป็นอะไร เช่น เป็นศรี ความร้ายนั้นสามารถกลับเป็นดีได้ เช่น ศรีเป็นเจ้าเรือน มรณะ เป็นดาว ๕ ช่วงนั้น เขาจะได้รับสิ่งที่ดีจากการเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของความหมายของเรือนมรณะ เช่น อยู่ในช่วงการบำเพ็ญเพียรทางจิต เป็นต้น อันนี้ต้องดูดวงเดิมด้วยว่าเขามีแนวโน้มไปทางนี้ไหม๊

๓. ดาวที่อยู่ในพื้นดวงเดิม หาก ลัคน์จรเข้าไปกระทบเข้า ก็เกิดผลได้เช่นกัน

๔. ประเภทของราศี ที่ลัคน์จรเข้าไปอยู่ หากเป็นราศี นระ กีตะ ดีมากกว่าเสีย ปัสวะ อัมภุ เสียมากกว่าดี ให้ดูตัดทอนกับการที่ลัคน์จรเป็นเรือนอะไรกับลัคน์ หรือ ตนุเศษ ด้วย

๕. ดาวจร สามารถ นำมาใช้กับลัคน์จรได้ มีผลเช่นเดียวกับ ลัคน์เดิม

๖. ตนุลัคน์จร มีผลเช่นเดียวกัน กับข้อ ๕.

๗. การคำนวณโชคเคราะห์ โชคศรี ฆาตกาลี สามมารถ มาใช้ได้ และมีผลเช่นเดียวกับลัคน์เดิม

ในการนับอายุ ควรใช้ องศาอาทิตย์เวลาเกิด เป็นเกณฑ์ในการนับอายุ ปี เดือน วัน รวมทั้งการนับทักษา เพราะหากใช้วันที่ ชนวันที่ มีสิทธิ์ไม่ตรงได้ในส่วนของการนับจรเดือน และจรวัน


ส่วนการนับอายุจาก ดิถี ยังไม่ได้ทำการทดสอบ

ขอให้ท่าน ที่สนใจนำไปทดสอบดูนะครับ ได้ผลอย่างไงก็ลองมาบอกกันบ้างนะครับ

เท่านี้ก่อนครับ สวัสดีครับ

3. สมพล..ของเก่าเอามาลง    [222.123.80.196]     11 Feb 2008 - 11:28

สวัสดีครับ

วันนี้ว่าง เลย เอาประสบการณ์ในการใช้ ลัคน์จร แบบกาลจักร มาให้ผู้ที่สนใจลองไปใช้ และทดสอบดู ซึ่งเราสามารถใช้ได้กับ ดวงจักราศี และดวงสิบลัคน์ แต่ดวงที่ผูกขึ้นจากดาวในปฏิทินลาหิลี ไม่เคยทดสอบครับ

ก่อนอื่น หากท่านจะใช้ ควรเริ่ม จากการ นับอายุก่อนที่ทำการทดลองมาและค้นคว้าทดสอบ ในการทำนาย การนับอายุ เพื่อความแน่นอน ผมจะใช้การนับแบบองศาพระอาทิตย์เป็นเกณฑ์ คือ

อายุ ๑ ปีองศา ๑ จะเดิน ไป ๓๖๐องศา ก็ ๑๒ ราศีพอดี ตรงนี้ผมใช้ องศา๑ ในเวลาที่เกิด เป็นจุดอ้างเริ่มแรก
ส่วนเดือน ก็ ๓๐ องศา เป็นหนึ่งเดือน
วัน ก็ใช้ ๑ องศา คือ ๑ วัน
ส่วน ชั่วโมง เราก็เทียบส่วนเอาเอง ก็ได้ ๒ ชั่วโมง ต่อ ๕ ลิปดา

ในการนับทักษา ก็เช่นกันครับ การนับก็ใช้เกณฑ์ ในการเปลี่ยนภูมิทักษา เช่นเดียวกับการนับวัน โดยถือองศาอาทิตย์เป็นหลัก แม้ว่าวันนั้น ยังเป็นวันศุกร์ เวลาเที่ยงวันก็ตาม หากองศาอาทิตย์ถึงก็เปลี่ยนภูมิทักษาได้เลย

ตัวอย่าง เช่นคนเกิด วันที่ ๒๐ ม.ค. ๕๑ เวลา ๐๙.๐๐ น. กทม. องศาอาทิตย์ เวลาเกิด อยู่ที่ ราศีมังกร ๕ องศา ๙ ลิปดา
ในการนับ วัน ถ้ายังไม่ถึง ๖ องศา ๙ ลิปดา เราจะไม่นับในภูมิต่อไป หากเกินแล้วค่อยเลื่อนเข้าภูมิถัดไป อันนี้หมายถึงการนับวัน
ในการนับเดือน หาก ๑ ยังจรไป ไม่ครบ๓๐ องศา จะยังไม่เปลี่ยนภูมิเดือน คือ ๑ ต้องจรไปในราศี กุม ๕ องศา ๙ ลิปดาแล้ว ถือว่านับเป็น ๑ เดือนได้
ในการนับปี ก็เช่นกัน หากองศาอาทิตย์ยังไม่เท่ากับ ราศี องศา ลิปดา ตอนเกิด แล้วก็ยังไม่ถือว่าเต็มปี บริบูรณ์

ในขั้นนี้หากใครที่ใช้วันที่ชนวันที่ไม่ได้ตรวจดูองศาพระอาทิตย์ จะมีบางเดือน ที่ยังไม่ตรงดีเพราะ ในเดือน ก.พ. จะมี วันแค่ ๒๘ / ๒๙ วัน ทำให้เกิดการเคลื่อนได้
ในการใช้ทักษานั้น ผมใช้ทักษาคู่ธาตุแบบที่ใช้กันทั่วไป การนับก็เช่นกัน เมื่อนับอายุ ภูมิ ๑ พออายุขึ้นปีต่อไป ก็เข้าที่ ตากลาง ๙ แต่ใช้ ๕ เป็นบริวารแทนในปีนั้น แต่ก็อย่าลืม พิจารณา ๙ ในดวงเดิมด้วย หากท่านใดถนัดใช้ทักษารามันก็ลองทดสอบดูนะครับ เพราะผมก็ยังไม่ได้ทดสอบว่าใช้การได้ขนาดไหน

เมื่อเรารู้อายุแล้ว ต่อไป เราต้องคำนวณ หา ว่าลัคน์จรของเรานั้น อยู่ที่ราศีใด นวาง ตรียาง ฤกษ์ ใด การคำนวณ นั้น ไม่ยาก เพราะ ครูอาจารย์สมัยก่อนท่านได้ ให้หลักเกณฑ์ ในการคำนวณไว้เรียบร้อยแล้ว จะยากตรงที่จำให้ได้เท่านั้น แต่สมัยนี้ ง่าย เพราะมีโปรแกรมช่วยคำนวณเสร็จสรรพ แต่ก็ควรที่จะรู้ไว้ว่ามาอย่างไร เวลาทีเราไม่ได้มีโปรแกรมช่วย จะได้พึ่งตัวเองได้

เกณฑ์การจรของลัคน์นั้น อ. ท่านได้ วางอัตรา การจรของลัคน์ตามราศีดังนี้

๑.ผู้ที่มี ลัคน์ อยู่ ในปัสวะราศี คือสัตว์สี่เท้า ได้แก่ ราศี เมษ พฤษภ สิงห์ จะมีเกณฑ์ ดังนี้
ราศี ๐ หรือ เมษ - ๒ ปี
ราศี ๑ หรือ พฤษภ – ๒ ปี
ราศี ๒ – หรือ มิถุน - ๒ + ๑ ได้ ๓ ปี
ราศี ๓ – กรกฏ ๒ + ๓ ได้ ๕ ปี
ราศี ๔ – ๒ ปี
ราศี ๕ – ๒+๑ ได้ ๓ ปี
ราศี ๖ - ๒+๑ ได้ ๓ ปี
ราศี ๗ พิจิก - ๒ + ๖ ได้ ๘ ปี
ราศี ๘ - ๒ +๑ ได้ ๓ ปี
ราศี ๙ - มังกร - ๒ + ๓ ได้ ๕ ปี
ราศี ๑๐ - ๒+๑ ได้ ๓ ปี
ราศี ๑๑ - ๒+ ๓ ได้ ๕ ปี
ลองสังเกตดูครับ ในราศีที่ เป็น นระราศี คือ สัญลักษณ์ราศีที่เกี่ยวกับคน จะเพิ่มจำนวนปีจากเกณฑ์ของราศีเมษ มา ๑ ปี ส่วน ราศี อัมภุ คือสัญลักษณ์เป็นสัตว์ที่อยู่น้ำ จะเพิ่มจากจำนวนปีของ ราศีเมษ มา ๓ ปี และ กีตะราศีคือ พิจิก จะเพิ่มจำนวนปีจากราศีเมษ มา ๖ ปี
ซึ่งเกณฑ์ที่เรามาบวกเพิ่มนี้เรานำมาใช้เป็นเกณฑ์บวกได้ทุกเกณฑ์ของลัคน์กำเนิดสถิตในราศีต่างๆ

ต่อไปมาดู ลัคน์ สถิตในราศีอัมภุ คือ กรกฏ มังกร มีน
อ. ท่านได้วาง เกณฑ์ จรดังนี้ครับ
ในปัสวะราศี คือ เมษ พฤษภ สิงห์ ท่านวางไว้ ๓ ปี ดังนั้น ใน นระราศีก็เอา ๑ มาบวก เข้ากับเกณฑ์ ราศีเมษ คือ ๓+๑ ได้ ๔ ปี อัมภุราศีก็เอา ๓ มาบวก เพิ่มจาก เกณฑ์ของ
ราศีเมษ คือ ๓ + ๓ ได้ ๖ ปี และ กีตะ ราศี ก็ นำ ๖ มาบวกเพิ่ม นั้น ได้ ๙ ปี

ต่อไปก็ นระราศี คือราศีที่มีสัญลักษณ์ เป็นรูปคน อ.ท่านได้วางเกณฑ์การจรขอลัคน์ดังนี้
ปัสวะราศี คือ เมษ พฤษภ สิงห์ ๔ ปี ดังนั้น นระราศีก็เอา ๑ มาบวกกับ เกณฑ์ราศีเมษ ได้ ๕ ปี อัมภุ เอา ๓ บวก ได้ ๗ ปี กีตะ เอา ๖บวก ได้ ๑๐ ปี

สุดท้าย กีตะราศี ท่านวางเกณฑ์โคจรของลัคน์ไว้ ที่ ปัสวะราศี ๕ ปี ดังนั้น นระก็เพิ่ม ๑ เป็น ๖ ปี อัมภุ เพิ่ม ๓ เป็น ๘ ปี กีตะ เพิ่ม ๖ เป็น ๑๑ ปี


ต่อไป ในการหาลัคน์จร นั้นเราเริ่มจากลัคน์เดิม ซึ่งอยู่ในราศีประเภทใด ก็ใช้ เกณฑ์ การจรของราศีประเภทนั้น
ในการหาลัคน์จรนั้น เราจะเริ่มหาที่จุดของลัคน์เดิม อยู่ ราศีใด มีองศาลิปาเท่าไหร่ ในราศีนั้น เราก็ไม่ต้องไปคิด เวลาในส่วนที่ลัคน์เดิมได้ผ่านมาแล้ว เราจะคิดเดินไปข้างหน้าอย่างเดียวคือเหลือ อีกกี่องศาจะพ้นราศีที่ลัคน์เดิมอยู่
พอเรารู้แล้วว่าราศีนั้นเหลือกี่องศาที่ลัคน์จรจะพ้นราศี ก็คิดเทียบกับเกณฑ์ที่ได้มีในแต่ละราศีนั้น ว่าเหลือเวลาอีกกี่ปี กี่เดือน กี่วัน ที่ลัคน์จะจรผ่านพ้นราศีนั้นๆ
ตัวอย่างเช่น
เกิด ๗ ส.ค. ๒๒ ลัคน์ราศี สิงห์ ๒๔ องศา แสดงว่า จะเหลือองศาที่ลัคน์จรเดินพ้นราศีสิงห์ อีกเพียง ๔ องศา ทีนี้เราก็มาเทียบดูว่าเป็นเวลา เท่าไหร่ โดยเทียบ บรรญยัติไตรยางค์ ก็ได้ ๓๐ องศา เดินได้ ๒ ปี ถ้า ๔ องศา จะเดินอีกแค่ ๔ องศา คูณ ๒ ปี หาร ๓๐ องศา ได้ ๐.๒๖๗ ปี ก็คือ ๓ เดือน กับ ๖ วัน

ดังนั้นเวลาที่คุณจะหาลัคน์จรก็ หาอายุ คิดเป็น ปี เดือน วัน จาก องศาอาทิตย์ แล้ว ลบ เกณฑ์ ราศีไปเรื่อยๆ จนไปตกที่ราศีใด เหลือเวลา เท่าไหร่ ก็คิดเทียบดูว่า กี่องศา ตก นว. ตย. ฤกษ์ ใด เท่านั้นเอง

ในการทำนาย ลัคน์จร มีผลเปรียบได้กับลัคน์เดิม แต่ต่างที่ ลัคน์จร เหมือนกับ ว่าคุณเข้าไปหาสิ่งนั้น หรือตอนนั้นเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมนั้น ส่วน ลัคน์เดิม เหมือนว่าคุณ อยู่เดิม แต่สิ่งแวดล้อม หรือสิ่งต่างๆ เข้ามาหาคุณ

ในการใช้ลัคน์จร เราสามารถใช้ได้กับดวงเดิม คือ ลัคน์จรตกที่ราศีใด เราดูว่าอยู่เรือนใดกับ ลัคน์เดิม หรือ ตนุเศษ เดิม เราสามารถดูได้ว่าช่วงนั้นชีวิตเขาอยู่ในสภาพเป็นเช่นไร ได้คร่าวๆ

ในส่วนของดาวในพื้นดวงเดิม ก็สามารถมาพิจารณาได้ว่า มีดาวใด มาสัมพันธ์ลัคน์จร ในลักษณะใดบ้าง ดีร้ายอย่างไร

ทักษาเดิมเจ้าราศีที่ลัคน์จรไปอยู่นั้นเป็นอะไร ทักษาจรเปลี่ยนเป็นอะไร ส่วนดาว ที่อยู่ในพื้นดวงเดิมนั้นก็ใช้หลักการเดียวกันได้ และ นวางศ์ ตรียางค์ ที่ลัคน์จรไปอยู่นั้น เราก็พิจารณาเช่นเดียวกันคือดูทักษาเดิม และจร เช่นกัน

ยกตัวอย่างซักดวง
เกิด ๒๖ ก.ค. ๒๔๙๒ เวลา ๑๑.๒๔ จ.เชียงใหม่ ลัคน์ราศี กันย์ ๑๓ องศา ๒๐ ลิปดา นว.๓ ตย.๗ ลองมาดูวันที่ ๑๙ ก.ย. ๔๙ ขณะนั้น เขามีอายุ ได้ ๕๗ ปี ๑ เดือน ๒๑ วัน คำนวณ ลัคน์จร แล้ว อยู่ที่ราศี กรกฏ ๑๐ องศา ๔ ลิปดา นว.๖ ตย. ๓ ราชาฤกษ์

จะเห็นได้ว่า ลัคน์จรของเขานั้น อยู่ใน อัมภุราศี เป็นราศีที่มีศัตรูคู่แข่งคนปองร้าย แต่เป็นเรือนที่ ๑๑ ลาภะ กับลัคน์ แต่เราจะเห็นว่าเจ้าเรือนเป็น ดาว ๒ กาลีวันเกิด มาแต่เดิม ทำให้ชีวิตของเขาในช่วงนั้นเดินอยู่ในความกดดันทางจิตใจ จากสิ่งแวดล้อมที่เขาอยู่ในขณะนั้น

กลับมาดูที่ทักษาจรในปีนั้น ตกที่ภูมิ ๕ ทำให้ ๒ กาลีเดิม เป็นมูละจร ทำให้ตัวเขานั้นที่เขามีความรู้สึกกดดันด้วยสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นเหตุมาจากการที่เขาได้เข้าไปอยู่ในที่ๆไม่เหมาะ หรือ ต้องเข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกี่ยวกับด้านทรัพย์สินที่เป็นโทษมาแต่เดิม

มาดูที่ ทักษา จรอีกครั้ง ทักษา ตกภูมิ ๕ ทำให้ ๗ เดชเดิมเป็นกาลีจร ในขณะนั้น ๗ กำลังจรมาทับลัคน์จร ที่ราศีกรกฏ ทำให้ตัวเขา มีความกดดันความทุกข์ ในเรื่องเกี่ยวด้วยการถูกดิสเครดิต หรือ การใช้อำนาจในทางที่เกิดโทษต่อตัวเขาเอง ๗ เป็นดาวเจ้าเรือนปุตตะ หมายถึงลูก หรือคนในปกครอง เมื่อเกิดเป็นเดช และกาลีจรขึ้นมา ทำให้เขาเกิดโทษ เพราะ คนที่มีอาจที่อยู่ในปกครองเขามาแต่เดิมนั่นเอง

ทีนี้มาดู ทักษาจรเดือนกันบ้าง
ในที่นี้ นับทักษา จรเดือนตกที่ภูมิ ๘ ทำให้ ๒ กาลีเดิม มูละปี เป็นศรีจรเดือน และ ๕ ศรีเดิม บริวารจรปี เป็นกาลีจรเดือน
ดูจากดวงแล้ว ดาว ๕ จรอยู่ในเรือน พันธุลัคน์จร และเรือนกดุมภะลัคน์เดิม จะเห็นได้ว่า ช่วงนั้น ๕ ให้โทษ ในเรื่องเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ครอบครัว หลักฐาน การเงินต่างๆหากมองดวงเดิม จะเล็งลัคน์จร อยู่ที่ราศีมังกร ซึ่งเกิดจาก บริวาร ที่มีลักษณะที่เป็นดาว ๕ นั่นเอง แต่เขายังคงอยู่ได้ ด้วยเหตุที่ ๒ มูละจรปีเป็นมาเป็นศรีจรเดือน แต่ก็ไม่ได้มีความสุขนักเนื่องด้วยเป็นกาลีมาแต่เดิม และโดน ๗ จรทับ แม้ว่า ๗ ในเดือนนั้นจะเป็นมนตรีจรเดือน แต่ก็มาจาก กาลีจรปี และเป็นดาว ๗ ดาวทุกข์โทษ จึงได้รับการช่วยเหลือแต่ก็เป็นไปในทางที่ไม่มีความราบรื่นเท่าใดนัก

ถ้าดูในวันนั้น ทักษาจรวัน ตกที่ ภูมิ ๗ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น.ของวันที่ ๑๙ ก.ย. ๔๙ ทำให้ ๔ เป็นกาลีจรวัน ในดวงเดิมจะเห็นว่า ๔ กุมกับลัคน์จร ที่ราศีกรกฏ และ๔ จรทับลัคน์เดิม ทำให้มีผลเสียเกิดจาก ดาว๔ ในวันนั้น คือได้รับข่าวร้ายซึ่งเกิดกับตัวเขา หากนับเวลาไปตามทักษา ช่องละ๑ ช.ม. แล้ว เวลา ประมาณ ๒๓ น. เป็นต้นไปนั้น
ดาว ๒ จะเป็นกาลีจรและได้จรลงไปที่ราศีสิงห์ ทับ ๗ กาลีจรปี ดาวทุกข์โทษ เป็นวินาศน์ลัคน์เดิม และกดุมภะลัคน์จร เป็นตัวชนวนที่ชี้เป้าให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดเกิดกับเขานั่นเอง และนี่คือ ดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่นเอง

ใครสนใจก็นำไปใช้ได้นะครับ ทั้งลัคน์เดียว สิบลัคน์ สามารถใช้ได้เหมือนกัน ผลการทายก็ไม่ต่างกันมากครับ

โชคดี สวัสดีครับ

4. สมพล..อันนี้ด้วยครับ    [222.123.80.196]     11 Feb 2008 - 11:29

ความรู้จากตำรา กาลจักรลัคน์จร

การใช้ ลัคน์จรแบบกาลจักร

1. เราใช้กับดวงเดิมเพื่อดูดีร้าย คำนวณโชค เคราะห์

2. ใช้ดวงเดิม กับ กาลจักร ( ดาวที่เคลื่อนไปตามเกณฑ์การจรของแต่ละราศี ซึ่งแบ่งออกเป็นสองลักษณะคือ ตามเกณฑ์ ราศีที่ลัคน์ และอีกลักษณะคือจรไปตามเกณฑ์ราศีที่ดาวเดิมนั้นสถิตย์อยู่ เป็นการดูว่าดาวเดิมนั้นได้จรมาดีร้ายอย่างไรกับลัคน์เดิม

3. ใช้ดวงกาลจักร และลัคน์จร เป็นดวงอ่านประจำปี หรือในเวลาที่เราต้องการรู้ เพื่อเป็นการตัดสิน ดีร้ายของดวง หากผลที่ออกมาจากการดูดาวจรนั้นมีความก้ำกึ่งกัน

4. การใช้ดวงกาลจักร ไม่ให้นำดวง ดาวจรในปฏิทินมาเกี่ยวด้วย เพราะ ดวงกาลจักร เป็นดวงที่จรแล้ว

5. สามารถ ใช้ดาวจร กับลัคน์จรแบบกาลจักรได้

6. ลัคน์จร แบบกาลจักรนั้น เปรียบเหมือนตัวเราได้ดำเนินชีวิตเข้าไปพานพบสิ่งใดในดวงเดิม เปรียบเหมือนว่ากรรมเดิม ได้บีบบังคับเราให้ไปพบกับสิ่งนั้น อันนี้ผมมีความเห็นเป็นเช่นนี้

7. การหา ฆาตอย่างง่ายๆ ที่สามารถใช้กับลัคน์จร และลัคน์เดิม อย่างได้ผล

7.1 ฆาต

นับทักษาดูว่าอายุนั้นตกที่ภูมิทักษาดาวอะไร จงดูว่าดาวนั้นมีกำลังเท่าไหร่ เอา กำลังดาวนั้นบวกกับอายุ ย่างที่ตกภูมินั้น บวกได้เท่าไหร่ เอา 12 หาร ได้ผลลัพธ์ ตัดทิ้ง เอาเศษ มาใช้ โดยดูว่า เป็นเศษ อะไร ก็ตรงกับราศีนั้น คือ เศษ 0 ก็ราศี 0 เศษ 1 ก็ราศี 1 คงจำได้นะครับ ราศี 0 คือ ราศีเมษ

เมื่อได้แล้วจุดนั้นเป็นฆาตแล้วดูว่า ราศีที่ร่วมธาตุนั้นด้วยว่าเป็นราศีใดบ้าง ก็ถูกฆาตด้วย หากทั้งสามราศีนั้น ถูก ลัคน์ เดิม จร ตนุลัคน์เดิม จร ๑ ๒ ตนุเศษ ก็ให้ระวังไว้ ไว้ด้วย

7.2 โชค ดูว่าทักษาอายุจรนั้นตกที่ดาวอะไร แล้วดูศรีจร ว่าเป็นดาวอะไร เอากำลังดาวนั้นบวกอายุย่าง แล้ว หารด้วย 12 ใช้เศษ นับเหมือนหาฆาต ใช้เหมือนหาฆาต เช่นกัน

5. สมพล..    [222.123.80.196]     11 Feb 2008 - 11:31

ในการใช้ ลัคน์จรแบบกาลจักรนั้น ปัจจุบันผมทดสอบเฉพาะลัคน์จรเท่านั้น ส่วนกาลจักรหรือการที่ดาวเดิมได้เคลื่อนไปตามเกณฑ์ราศีนั้น ยังไม่ได้ทำการทดสอบ

ในการที่เราจะ ดูดวงนั้น โดยมากผมจะดูในดวงเดิมก่อนเพราะเป็นตัวบอกว่าดีร้ายแค่ไหน เวลาดาวจรมาก็ไม่ดีมากไปกว่านั้นได้

ดังนั้นเวลาที่ลัคน์จรไป เข้าราศีใด ให้ดูว่า ราศีนั้นเป็นเรือนอะไร ของตนุเศษ ของลัคน์ หลังจากนั้น ในเรือนนั้นได้มีดาวอะไรอยู่บ้าง ก็ให้ดูให้พิจารณาด้วย

โดยดูว่า ดาวนั้นเดิม เป็นเจ้าเรือนอะไร ทักษาเดิมนั้น เป็นอะไร และเมื่อห้วงระยะที่ลัคน์จรได้เคลื่อนเข้าไปอยู่ในราศีนั้นแล้ว ดาวที่อยู่ในราศีนั้นได้เปลี่ยนภูมิทักษา เป็นอะไรแล้ว เมื่อเราดูแล้ว เราก็จะพิจารณาได้ ว่า ลัคน์จร ก็เหมือนชีวิตเรานั้นเข้าไปพานพบกับเรื่องอะไรบ้าง ก็คือ ดาวที่อยู่ในราศีนั้น และเราได้มีสิ่งแวดล้อมในตอนนั้นเป็นอย่างไร ก็คือดูว่าอยู่ในราศีใดเจ้าเรือนนั้นคือดาวอะไร มีทักษาเป็นอย่างมาแต่เดิม และปัจจุบันเปลี่ยนภูมิทักษาเป็นอะไร

ส่วนการใช้กาลจักรเป็นดาวจรมาดูกับดวงเดิมนั้น ไม่เคยใช้ครับ
คุณต้องสังเกตเองแล้วครับ แล้วบันทึกด้วยนะครับ

6. สมพล..    [222.123.80.196]     11 Feb 2008 - 11:32

ท่านใด มี เพิ่มเติม  เชิญครับ

7. พิจิก..    [117.47.94.39]     09 Apr 2008 - 21:56

ตอนนี้ก็ศึกษาบ้างแล้วครับ (เป็นเด็กอนุบาลอยู่ขอรับ)

จากตำราส่วนใหญ่จะบอกว่าให้ความแม่นยำค่อนข้างสูง

ผมมีความเห็นว่าประการนี้เห็นจะตรงขอรับ

ตอนนี้มีดวงที่ลัคน์จรไปตกวินาศน์ลัคน์เดิม ตอนนี้ก็ต้องคดีอยู่

อีกคนลัคน์จรตกอริ ก็มีปัญหาแก้ไม่ตกขอรับ แปลกดีจริงๆ

ต้องขอขอบคุณและน้อมระลึกถึงพระคุณของโหราจารย์

แต่เก่าก่อนที่คิดค้นขึ้นมา และขอบคุณคุณพี่สมพลนะขอรับ

ที่มาเพิ่มเติมเกร็ดต่างๆที่ผมไม่เคยได้รับรู้


8. naotoe..เรียนถามคุณสมพล..ครับ    [10.106.101.99]     10 Apr 2008 - 14:08

     ผมเป็นคนลัคนาราศีสิงห์ เกิดวันพุธเวลา 19.30 น. มีดาว 1 ตนุลัคน์อยู่ราศีมังกร ดาว 8 เดิมอยู่ในราศีกุมภ์ (ลาหิรี) หรือราศีมังกร (สุริยาตร์) อายุ 37 ปีเต็มย่าง 38 ปี คบกับแฟนคนปัจจุบันมาได้ปีเศษ น่าจะเป็นเพราะอิทธิพลของดาว 8 ที่อยู่ในภพปัตนิ มีบางคนบอกว่าในปีนี้ให้ระวังจะเดือดร้อนเพราะแฟน เพราะดาว 8 จะเป็น "กาลีจร" ซึ่งกำลังจะย้ายเข้ามาอยู่เรือนอริในอีกไม่กี่วันนี้
     รบกวนถามคุณสมพลครับว่า... ดาว 8 เป็น "กาลีจร" สำหรับผมในปีนี้จริงหรือ ? เมื่อมาอยู่ในภพอริทับตนุลัคน์ ผมจะเป็นอย่างไรบ้างในปีนี้ ? ขอบคุณมากครับ...

9. สมพล..ถึง naotoe    [222.123.208.41]     10 Apr 2008 - 18:43

ขอวันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และสถานที่เกิด ครับ  เพราะผม ถนัดที่จะใช้ แบบสุริยาตร ครับ

แล้ว ผมขอมาวิเคราะห์ ในแบบที่ผมถนัด นะครับ 

 


10. สมพล..    [222.123.208.41]     10 Apr 2008 - 18:56

8 เป็นกาลีจร หรือไม่ ?

ถ้าหากต่ามที่คุณว่ามา เกิด วันพุธ อายุ 37 ย่าง38ปี  หากนับทักษา ในแบบทักษาคู่ธาตุคือช่องละ1ปี และเมื่อถึง1แล้ววกเข้า ตา กลาง ตอบว่า 8 ไม่ได้เป็นกาลีจรแต่อย่างใด แต่8เป็นเดชจร

แต่หากนับทักษาในทาง สาย อ.ประทีป เกิดวัน พุธ  เริ่มที่ 17 +10+19 ได้ 46 ปี ดังนั้นเป้นช่วงที่ 5 เสวยอายุ เรานับเริ่มอายุ 28 ปี ที่ 5 วนไปโดยไม่ต้องเข้าตากลาง เมื่อถึง อายุ 38 ปี ทักาตกที่ 6 เป็นบริวารจร มี 8 เป็นกาลีจร

 


11. naotoe..เรียน คุณสมพล..ฯ    [202.149.25.225]     11 Apr 2008 - 14:32

     ผมเกิดวันที่ 10 ก.พ.14  เวลา 19.30 น. ที่ จ.นครปฐม ครับ  ที่ผ่านมามีแฟนก็คบกันได้นาน (คบมาได้ 3 คนแล้วครับ ปัจจุบันเป็นคนที่ 4)  แต่พอจะลงเอยก็มีอันต้องมีเรื่องเลิกรากันไป  เรื่องเงินก็หมุนอยู่ตลอดเวลา  ญาติ ๆ กำลังประสบปัญหาธุรกิจล้มอยู่ครับ..  ตัวผมเองพอเอาตัวรอดไปได้..  ความรู้เรื่องทักษาไม่ค่อยมีครับ..  เห็นว่ามีนับกันหลายแบบ (แบบที่คุณสมพลว่าน่ะครับ..)  ตัวปัญหาสำหรับผมคือดาว 8 ครับ  เนื่องจาก

     1. คำนวณสุริยาตร์ กับลาหิรี  จะอยู่ต่างราศีกัน   สังเกตุจากที่ตัวเองมักมีปัญหาเรื่องคู่  ผมว่าน่าจะอยู่ที่ราศีมังกรเป็นอริ...  ทีนี้หากเป็นกาลีจร  แล้วมาลงที่อริ..  ทับราหูเดิม  ผมคงอ่วมอรทัยนะครับ..

     2. การนับทักษาของผมนั้นจะต้องเริ่มที่ 8 (วันพุธ หลัง 18.00 น.) ใช่ไหมครับ  บางคนบอกว่าวันพุธต้องเริ่มนับที่ 4 

    กับแฟนคนปัจจุบันก็ดูว่ารักผมดี  แต่จากลางสังหรณ์รู้สึกว่าจะมีอะไรปิดบังผมอยู่อีกอ่ะครับ...   รบกวนคุณสมพลช่วยชี้แนะด้วย   ขอบคุณมาก ๆ ครับผม...


12. สมพล..ถึง naotoe    [222.123.81.239]     11 Apr 2008 - 16:15

 

 ไม่ทราบว่า คุณ มีโครงหน้า เป็นรูปไข่ หน้าผากกว้างอาจมีง่ามถ่อนิดๆ หรือมีโหนกแก้มขึ้นบ้างแค่ไม่มากนัก  ผิวขาวเหลือง ร่างหนา ค่อนข้างสูง ประมาณ 175 เซน.  มีใฝปานแถว หน้าอกและท้อง บ้างรึเปล่า หาก ไม่ใช่ บอกลักษณะโครงหน้าด้วยครับ 


13. naotoe..เรียน คุณสมพล...    [202.149.25.241]     11 Apr 2008 - 16:52

     ลักษณะของผมหน้าผากกว้าง ไม่ถึงกับล้าน  ใบหน้าใกล้เคียงกับรูปไข่ (ปนสี่เหลี่ยมนิด ๆ) มีโหนกแก้มไม่มากนัก  (เพื่อนบอกว่าดูปากกว้าง)   ผิวขาวเหลือง... ลักษณะเจ้าเนื้อนิด ๆ   มีใฝแดง และดำที่บริเวณอก  และใฝดำในที่ลับ  สูงประมาณ 165 ซม.  สายตาสั้นพอสมควร และเอียงนิดหน่อยครับผม 

14. สมพล..ถึงnaotoe    [222.123.81.239]     11 Apr 2008 - 18:26

ผมใช้เวลาที่คุณให้มา ทำดวงโดยใช้ดาวที่คำนวณแบบสุริยาตร  ได้ ลัคน์ที่ราศี กันย์ ต้นราศี

ดาวในดวงแบบสิบลัคน์ มีดังนี้

1 และ ลัคน์  อยู่ราศีกันย์

7 อยู่ราศี ตุลย์

2 อยู่ราศีมังกร

0 9 อยู่ราศีมีน

5 3 อยู่ราศีกรกฏ

4 6 8 อยู่ราศีสิงห์

มี 3 เป็นตนุเศษ

ตามพื้นดวงเดิม มี 7 เป็นปัตนิเกษตร มาอยู่เรือนพันธุเกษตร แสดงว่าเรื่องคู่ครองเป็นคนที่ต้องมาจากความผูกพันธ์สนิทสนมกันมาก่อน ไม่ได้เป็นแบบเจอปั๊บ รักปุ๊บ ต้องใช้ความสัมพันธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไป  7 มาอยู่ในราศีตุลย์ เป็นอุจน์ จึงมีความหมายของ 7 อย่างเต็มเปี่ยม และมี 6 เป็นเจ้าราศี จึงทำให้เรื่องคู่ของคุณนั้นไม่ราบรื่นเท่าที่ควร เพราะเป็นดาวคู่ศัตรูเมื่อมีรักที่ผูกพันธ์กันยาวนานก็จะมีเรื่องที่ต้องระทมทุกข์ตามมามากขึ้น เพราะความสุขที่ได้จาก 6 ที่เป็นเจ้าเรือน เข้าไปผสานกับความหมายของ 7 ได้น้อยเพราะ 7 เป็นอุจน์  และ ราศีนี้ เป็นราศีธาตุลมแม่ธาตุ ความผันผวนไม่แน่นอนในเรื่องดังกล่าวนี้ก็มากขึ้นไปด้วย  ดังนั้น เราจะแปลได้คร่าวๆ ว่า เรื่องคู่ครองของคุณนั้น เริ่มมาจากความสัมพันธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไปค่อยๆผูกพันธ์กันและในขณะที่คบกันนั้นความสุขที่ได้รับนั้นมักจะไม่ค่อยมีซักเท่าไหร่พร้อมทั้งมีโอกาศที่เกิดการพลิกผันในเรื่องคู่ครองได้ง่ายอีกด้วย 

หากเรามองที่ 7 ที่เป็น ปัตนิเกษตรนั้น จะเห็นได้ว่า เป็นอัมภุเกณฑ์ของราศีกรกฏ และ ในราศีกรกฏก็มี 5 3 อยู่ในราศีนั้น ดังนั้น เราเอาความหมายของคู่ดาว 5 และ 3 มารวมกับ 7 ได้   75 คือคู่ขัดแย้งในทางโลกและทางธรรม เหมือนกลืนไม่เข้า คลายไม่ออก  73(กาลีเดิม) เป็นคู่ขัดแย้ง และ 3 เป็นกาลี จึงทำให้ 7 พลอยเสียไปด้วย จึงมีคู่ไม่ยืดนัก

หากเรามาดู 2 ที่อยู่ราศีมังกร เป็นประ ในเรือนเกษตรดาว 7 และเป็นเรือนตนุเกษตร จะเห็นว่า สภาพจิตใจอารมณ์ มีสภาพไม่แน่นอนมากนัก เพราะเป็นประ และไปอยู่ในเรือน 7 ทำให้ สภาพความกดดันที่เป็นความหมาย 7  เข้าใน2 อารมณ์จิตใจมากขึ้น และ 2 7 เป็นคู่แตกแยกกันด้วย จึงทำให้สภาพเรื่องของปัตนิ มีความหมายที่ไม่ดีนัก มักมีการแตกแยก พลัดพรากกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้ามาดูทางทักษา 2 เป็นมนตรีเดิม ดังนั้นเรื่องคู่ก็มีได้แต่ไม่ยั่งยืนตามดาวไปด้วย หรือเมื่อมีการเลิกคนนี้แล้วจะได้หญิงคนอื่นมาช่วยปลอบใจตามความหมายของมนตรีที่เป็น2 ด้วย

เอาเท่านี้ก่อนนะครับ  แล้วจะมาต่อใหม่

 


15. naotoe..    [202.149.24.161]     11 Apr 2008 - 20:18

   ขอบคุณ..คุณสมพลมาก  ๆ  ครับผม...    ถ้าเป็นราศีกันย์ผมคงต้องปรับความเชื่อใหม่หมดเลย  แต่ถ้าใกล้เคียงอย่างที่คุณสมพลว่าก็โอเคแล้วครับ..   และถ้าเป็นกันย์แสดงว่าเสาร์ยังไม่ทับลัคน์ผม..  เฮ้อ.. รอมาตั้งนาน  กะว่าอึดอีก 2 ปีก็เบาลงแล้ว....  ก็คงรอต่อไปอ่ะครับ..

16. สมพล..ถึง naotoe    [117.47.226.17]     11 Apr 2008 - 21:48

สวัสดีครับ

ตามที่ผมได้ วางลัคน์ไว้ที่ราศีกันย์นั้น ผมทำการผูกดวงชะตาโดยใช้แบบสุริยาตร ซึ่งจะต่างกับแบบอื่น และผมเห็นว่าคุณเป็นคนที่สนใจทางด้านโหราศาสตร์ จึงใช้เวลาที่คุณให้มานั้นคำนวณลัคน์

เห็นว่า คุณมี ๕ เป็น ๑๑ กับลัคน์ แสดงว่าสนใจทางด้านศาสตร์วิชาการต่างๆ เป็นอย่างดี และมี ๐ และ ๙ เล็งลัคน์ ซึ่งเป็นดาวที่หมายถึงศาสตร์ทางด้านโหราศาสตร์ด้วย อีกทั้งคุณมี ๒ เป็นประ เล็งกับ ๓ กาลี ซึ่ง ๒ คือดวงตา และ ๑ ดวงตาก็ถูก ๐ เล็ง จึงมีผลเกี่ยวกะสายตา ตามที่คุณได้บอกมา

นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมวางไว้ราศีกันย์

 


17. naotoe..    [202.149.25.225]     13 Apr 2008 - 07:16

      ขอบคุณอีกครั้งครับ....    ขอให้คุณสมพลมีความเจริญในทางโหราศาสตร์ และทางธรรมตลอดไปครับผม...

18. สุธีมา..    [124.120.55.115]     24 Apr 2008 - 18:38

ลองทดสอบใช้เครืองคำนวณ ที่มีโปรแกรม กดหา กาลจักร 1(กด4) กดหากาลจักร 2 (กด 5) หากศึกษาโดยติดตามสถิติ ดูการเคลื่อน ย้า่ยของดวงดาว ทังอดีต ที่ผ่านมา เมื่อมีดาวเริ่มย้ายออกจากเรือน ลองสอบเหตุการณ์ที่มีการเปลียนแปลงที่เกิดขึ้นกับชีวิต จริงของตนเอง จนกระทั่งปัจจุบันอาจได้อะไรที่เปลียนแปลงกับทฤษฎีเดิมๆเป็นแน่แท้และ ลองอ่านดวงนวางค์กาลจักรประกอบด้วย... นีคือเหตุผลของผู้ตอบ...

กระดานถามตอบเชิงวิชาการ ผู้ที่ต้องการร่วมแสดงความเห็น ต้องสมัครสมาชิกก่อน ต้องการสมัครเชิญคลิ๊ก!
หากท่านเป็นสมาชิกอยู่แล้ว ต้องการแสดงความเห็นต้อง Login เข้าสู่ระบบก่อน
 UserName  รหัสผ่าน