:: ศาสตร์แห่งการตั้งชื่อ ::
นับแต่โบราณมา คนไทยสมัยก่อนมีวิธีการตั้งชื่อมานานแล้ว
สืบทอดมรดกทางภาษา และวัฒนธรรมแห่งความเป็นไทย การตั้งชื่อของคนไทย เพื่อความเป็นสิริมงคล
เพื่อส่งเสริมดวงชะตาให้ดีเด่น ตามหลักโหราศาสตร์ หรือแม้กระทั่ง เพื่อหวังผลในทางจิตวิทยา
หลักการตั้งชื่อของไทยโดยส่วนใหญ่จะยึดหลักตามทักษา ซึ่งเกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ไทย
คำแนะนำในการตั้งชื่อ
1. การตั้งชื่อให้คำนึงถึงหลักภาษา หมายความว่าชื่อที่จะตั้งจะต้องเขียนถูกต้องตามหลักภาษา มีความหมายดี ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญที่พึงปฏิบัติ ไม่ควรตั้งชื่อที่ไม่มีความหมาย หรือมีความหมายในทางไม่ดี และเป็นภาษาวิบัติ
2. ถ้าจะใช้หลักโหราศาสตร์มาเกี่ยวข้อง พึงใช้แค่หลักทักษา คือหลักว่าเกิดวันใด อักษรใดเป็นกาลกิณี หลีกเลี่ยงอักษรกาลกิณีเท่านั้นก็น่าจะเพียงพอ ไม่ต้องให้ความสำคัญว่า หากเป็นชายต้องตั้งชื่อนำหน้าด้วยอักษรวรรคเดช หรือเป็นหญิงต้องตั้งชื่อนำหน้าด้วยอักษรวรรคศรี
3. ถ้าจะนำตำราเลขศาสตร์มาใช้ ก็ให้ตั้งชื่อที่คิดค่าตัวเลขออกมาแล้วดี ชื่อที่ไพเราะ ถูกต้องตามหลักภาษาบางครั้งอาจอาจมีค่าตัวเลขที่ไม่ดีก็ได้ ดังนั้นหากจะใช้ระบบเลขศาสตร์จริงๆ ควรคำนึงถึงหลักของโหราศาสตร์ ว่าด้วยดาวที่ให้อิทธิพลกับเจ้าชะตาประกอบด้วย ตามหลักที่ว่า ดาวใครดาวมัน
4.ต้องไม่ลืมว่า ชีวิตคนเราขึ้นอยู่กับเงื่อนไขปัจจัยหลายๆ อย่าง พระท่านว่าคนเราจะดีเลวอย่างไรนั้น เพราะ กรรม ที่เราทำไว้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มันจะเป็นแรงส่งที่สำคัญให้ชีวิตเราไปดี หรือไม่ดี มาก หรือน้อย แล้วแต่ กรรม เรียกว่าเราทำอย่างไรก็จะได้อย่างนั้น
5. การตั้งชื่อ หรือการเปลี่ยนชื่อ สิ่งที่ได้อันดับแรกคือ ได้ชื่อใหม่ (ตอบแบบกำปั้นทุบดิน) เมื่อได้ชื่อใหม่ที่ไพเราะ มีความหมายดี ผลที่ตามมาคือ ความสบายใจ เป็นผลทางจิตวิทยา ทำให้รู้สึกเป็นคนใหม่ พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น มีความั่นใจในตัวเองมากขึ้น ปราถนาที่จะทำชีวิตให้ดีขึ้น ตามชื่อใหม่ที่ดีขึ้นนั้นเอง
สำหรับโปรแกรม "ชื่อดี..นามมงคล" ใน Payakorn.com นี้ มิได้ยึดหลักเคร่งครัดมากมายอะไร เพียงนำหลักทักษามาประกอบ งดเว้นใช้อักษรกาลกิณี ในชื่อ พร้อมทั้งคำนวณทางเลขศาสตร์ เพื่อเป็นการประดับความรู้เท่านั้น เพราะเรามีความเชื่อเรื่องผลของกรรม เป็นหลักใหญ่มากกว่า
อนึ่ง มีโหราจารย์เคยกล่าวไว้ว่า "โหรไทยไม่กลัวกาลกิณี แต่กลัวดาวกาลกิณีมีกำลัง" ดังนั้นหากจะตั้งชื่อตามหลักโหราศาสตร์จริงๆ ควรที่จะทำการผูกดวงชะตา เพื่อที่จะพิจารณาสอบเรื่องคุณภาพของดาวด้วย
คำแนะนำในการตั้งชื่อ
1. การตั้งชื่อให้คำนึงถึงหลักภาษา หมายความว่าชื่อที่จะตั้งจะต้องเขียนถูกต้องตามหลักภาษา มีความหมายดี ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญที่พึงปฏิบัติ ไม่ควรตั้งชื่อที่ไม่มีความหมาย หรือมีความหมายในทางไม่ดี และเป็นภาษาวิบัติ
2. ถ้าจะใช้หลักโหราศาสตร์มาเกี่ยวข้อง พึงใช้แค่หลักทักษา คือหลักว่าเกิดวันใด อักษรใดเป็นกาลกิณี หลีกเลี่ยงอักษรกาลกิณีเท่านั้นก็น่าจะเพียงพอ ไม่ต้องให้ความสำคัญว่า หากเป็นชายต้องตั้งชื่อนำหน้าด้วยอักษรวรรคเดช หรือเป็นหญิงต้องตั้งชื่อนำหน้าด้วยอักษรวรรคศรี
3. ถ้าจะนำตำราเลขศาสตร์มาใช้ ก็ให้ตั้งชื่อที่คิดค่าตัวเลขออกมาแล้วดี ชื่อที่ไพเราะ ถูกต้องตามหลักภาษาบางครั้งอาจอาจมีค่าตัวเลขที่ไม่ดีก็ได้ ดังนั้นหากจะใช้ระบบเลขศาสตร์จริงๆ ควรคำนึงถึงหลักของโหราศาสตร์ ว่าด้วยดาวที่ให้อิทธิพลกับเจ้าชะตาประกอบด้วย ตามหลักที่ว่า ดาวใครดาวมัน
4.ต้องไม่ลืมว่า ชีวิตคนเราขึ้นอยู่กับเงื่อนไขปัจจัยหลายๆ อย่าง พระท่านว่าคนเราจะดีเลวอย่างไรนั้น เพราะ กรรม ที่เราทำไว้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มันจะเป็นแรงส่งที่สำคัญให้ชีวิตเราไปดี หรือไม่ดี มาก หรือน้อย แล้วแต่ กรรม เรียกว่าเราทำอย่างไรก็จะได้อย่างนั้น
5. การตั้งชื่อ หรือการเปลี่ยนชื่อ สิ่งที่ได้อันดับแรกคือ ได้ชื่อใหม่ (ตอบแบบกำปั้นทุบดิน) เมื่อได้ชื่อใหม่ที่ไพเราะ มีความหมายดี ผลที่ตามมาคือ ความสบายใจ เป็นผลทางจิตวิทยา ทำให้รู้สึกเป็นคนใหม่ พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น มีความั่นใจในตัวเองมากขึ้น ปราถนาที่จะทำชีวิตให้ดีขึ้น ตามชื่อใหม่ที่ดีขึ้นนั้นเอง
สำหรับโปรแกรม "ชื่อดี..นามมงคล" ใน Payakorn.com นี้ มิได้ยึดหลักเคร่งครัดมากมายอะไร เพียงนำหลักทักษามาประกอบ งดเว้นใช้อักษรกาลกิณี ในชื่อ พร้อมทั้งคำนวณทางเลขศาสตร์ เพื่อเป็นการประดับความรู้เท่านั้น เพราะเรามีความเชื่อเรื่องผลของกรรม เป็นหลักใหญ่มากกว่า
อนึ่ง มีโหราจารย์เคยกล่าวไว้ว่า "โหรไทยไม่กลัวกาลกิณี แต่กลัวดาวกาลกิณีมีกำลัง" ดังนั้นหากจะตั้งชื่อตามหลักโหราศาสตร์จริงๆ ควรที่จะทำการผูกดวงชะตา เพื่อที่จะพิจารณาสอบเรื่องคุณภาพของดาวด้วย