:: บทความโหราศาสตร์ ของ ศ. ดุสิต จากหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ ::
20-01-2549 ความสัมพันธ์ของฐานที่สี่ เมื่อคุณสามารถอ่านดวงเดิมสามฐานออกอย่างคล่องแคล่วแล้ว เราจึงจะมาศึกษากันถึงฐานที่สี่นี้ได้ จริงอยู่ เราอาจจะเรียนรวดเดียวมาถึงฐานที่สี่นี่เลยก็ได้ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะสอนหรือเรียนกันมาแบบนี้แทบทั้งนั้น) แต่การศึกษาแบบนั้นเป็นการศึกษาอย่างรวบรัด เหมาะสำหรับบางคนที่มี IQ (สติปัญญาไหวพริบ) สูง ซึ่งก็อาจจะพอเข้าใจถึงวิธีการอ่านได้เหมือนกัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ได้เป็นผลดีต่อผู้ศึกษาอย่างสมบูรณ์เต็มที่เลย เพราะการเรียนแบบรวบรัดผลที่ได้ก็เป็นผลที่รวบรัด ไม่ละเอียด ไม่ลึกซึ้ง พุดง่ายๆ ก็คือ "ฐานไม่แน่น" นั่นเอง ผมเห็นว่าการเรียนสามฐานให้เข้าใจดีเสียก่อนแล้วจึงค่อยมาเรียนฐานที่สี่ วิธีนี้จะทำให้คุณๆ มีความเข้าใจที่แน่นแฟ้นดีขึ้น มีหลักที่ดีขึ้น และในโอกาสต่อไป การเรียนถึงระดับพยากรณ์ก็จะเข้าใจได้ง่ายขึ้นด้วย ฉะนั้น จึงขอให้คุณๆ ได้โปรดอดทนศึกษาในแบบนี้ต่อไปเถิด อย่าใจร้อนเลย ไหนๆ ก็ยอมเสียเวลามาศึกษากันถึงป่านนี้แล้ว ทำใจเย็นอีกหน่อยก็จะได้เข้าใจและเรียนรู้วิชา "เลข 7 ตัวมหัศจรรย์" นี้อย่างทะลุปรุโปร่งไม่น้อยหน้าใครอีกด้วย การจะศึกษาในฐานที่สี่นี้ จุดสำคัญอยู่ที่จะต้องจดจำความหมายของตัวเลขในฐานที่สี่นี้ให้ได้ทั้งหมด ตั้งแต่ 3 ไปจนถึง 21 เลย ถ้าใครรู้ตัวว่ายังจำได้ไม่คล่อง ก็ควรเสียเวลาหันไปท่องจำความหมายของตัวเลขในฐานที่สี่นี้ให้ได้เสียก่อน เพราะการรู้ความหมายของตัวเลขนี้ สำคัญ มาก เนื่องจากมันจะเกี่ยวข้องกับการพยากรณ์ในเวลาต่อไปอีกเมื่อรู้ความหมายดีแล้ว จึงค่อยมาศึกษากันต่อไป ความสำคัญของฐานที่สี่นี้ก็คือ ตัวเลขในฐานนี้แหละที่จะเป็นตัวบอกหรือเป็นคำตอบในสามฐานที่อ่านมาแล้ว ฐานที่สี่นี้จะเป็นตัวขยายรายละเอียดออกไปอีก เป็นคำตอบที่จะให้รู้ว่า แท้จริงแล้วความหมายของสามฐานที่เราอ่านมานั้นมันสิ้นสุดลงอย่างไร และท้ายที่สุด มันยังเป็นตัวแสดงความเชื่อมโยงระหว่างดาวในฐานที่สามอีกด้วยว่า ดาวเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ดาวไหนสัมพันธ์กับดาวไหนเป็นต้น ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า - - ฐานที่สี่คือคำตอบในการอ่านจากสามฐานข้างบนนั้น และเป็นตัวเชื่อมโยงให้ดาวในฐานที่สามมีความสัมพันธ์กันด้วย ขอยกตัวอย่างดวงที่เคยตั้งเป็นคำถามมาแล้วในบทก่อนมาเป็น "ตุ๊กตา" เพื่ออธิบายความสำคัญของฐานที่สี่ให้คุณๆ ได้เห็นดังนี้ 5 6 7 1 2 3 4 5 6 7 1 2 3 4 6 7 1 2 3 4 5 16 19 15 4 7 10 13 ความหมายของตัวเลขในฐานที่สี่นี้ ผมเคยบอกไว้ในตอนต้นๆ แล้วอย่างละเอียดพอควร แต่คุณๆ คงจะลืมไปแล้วแหละ ผมจึงขอยกเอามาให้คุณได้เห็นและจดจำกันไว้ตรงนี้อีกครั้ง ทีนี้จำกันให้ได้นะครับ เพราะผมคงไม่ยกมาบ่อยๆ หรอก ความหมายของฐานที่สี่มีดังนี้ครับ ความหมายของตัวเลขในฐานที่สี่ 3 = อังคารเล็ก 4 = พุธเล็ก 5 = พฤหัสฯ เล็ก 6 = ศุกร์เล็ก / กำลังพระอาทิตย์ 7 = เสาร์เล็ก 8 = ราหู / กำลังดาวอังคาร 9 = พระเกตุ = การส่งเสริมเร่งเร้า, จิตวิญญาณที่ปกป้อง, โชคเคราะห์ที่อุบัติโดยไม่คาดหมาย, ต่างชาติต่างถิ่น, พลังเร้นลับ, อานุภาพที่มองไม่เห็น, ความเปลี่ยนแปลง 10 = กำลังดาวเสาร์ (หมายถึงพระเสาร์น่ะแหละ), ความทุกข์, ความเหนื่อยยาก, ความเนิ่นช้า, ความเก่าแก่, ความสุขุมรอบคอบ 11 = ราชาโชค (การมีโชคโดยไม่เหนื่อยมาก), สองเท่า (Double), ความซ้ำซาก 12 = ราหู : ความลุ่มหลงมัวเมา, อบายมุข, ความมืดมัว 13 = มหาอุจจ์ : ความสูงส่ง, พลังหนุน, ความใสสว่าง, เกียรติยศชื่อเสียง, จำนวนมาก 14 = จักรพรรดิ : ความยิ่งใหญ่ (ไม่สูงสุด), ความสำเร็จ, ความมาก 15 = กำลังของดาวจันทร์ (ความหมายเดียวกับดาวจันทร์) 16 = โสฬส : ความอุดมสมบูรณ์, ความสุข, สุรุ่ยสุร่าย 17. กำลังดาวพุธ (ความหมายเดียวกับดาวพุธ) 18. มหาจักรพรรดิ : ความยิ่งใหญ่สมอัตภาพ, สิ่งสูงสุด, จมไม่ลง, อำนาจ, ความมากมาย 19 = กำลังดาวพฤหัสฯ (ความหมายเดียวกับดาวพฤหัสฯ) 20 = เสาร์กำลังสอง : ความเหนื่อยยากมาก, ทุกข์หนัก, ผิดหวังขมขื่น 21 = กำลังดาวศุกร์ (ความหมายเดียวกับดาวศุกร์) ความรัก, การเงิน, ความสนุกสนานร่าเริง, ความสวยงาม, ศิลปะ ขอให้ท่องจำกันให้ดีนะครับ ผมบอกแล้วว่าฐานบวกนี้มีความสำคัญมาก ถ้าคุณยังจำความหมายเหล่านี้ไม่ได้ คุณก็ยังทายใครไม่ได้เหมือนกัน คุณยิ่งจำได้มากเท่าไหร่ คุณก็จะเก่งขึ้นเท่านั้น มันสำคัญยังไงคุณติดตามต่อไปเดี๋ยวก็รู้เอง จากดวงตัวอย่างนี้ เราได้อ่านสามฐานกันมาแล้วในบทก่อนๆ ซึ่งเราอ่านได้ว่า อัตตะ ตรงกับ ตนุ และ ทาสา ซึ่งแปลได้ว่าเจ้าชาตาจะต้องพึ่งตนเอง และจะต้องเหน็ดเหนื่อยในการสร้างตัวโดยมีผลที่เกี่ยวกับผู้อื่นด้วย เราอ่านสามฐานได้ความมาว่าอย่างนี้ แต่ข้อมูลที่เราได้มานั้นมันก็ยังขาดด้วนอยู่ คือไม่รู้ว่าในการพึ่งตัวเองและเหน็ดเหนื่อยโดยมีผู้อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนี้ - - ผลของมันจะเกิดแก่เจ้าชาตาอย่างไร? ดีหรือไม่ดี? จะยากจนหรือร่ำรวย? จะยิ่งใหญ่หรือตกต่ำ? คำตอบอยู่ในฐานที่สี่นี่เองแหละครับ เมื่อเราอ่านจาก อัตตะ และอัตตะก็คือดาวพฤหัส (๕) เราก็ตามดูไปที่ดาว ๕ ซึ่งอยู่ใน ทาสา อันเป็นนิยามที่อยู่ในฐานปี (เราจะตามหาตัวสุดท้ายในฐานปีเสมอ) และดูผลบวกอันอยู่ในฐานที่สี่ใต้ดาวนั้น ซึ่งในดวงตัวอย่างนี้ปรากฏว่า มีตัวเลข (ซึ่งบวกรวมกันสามฐาน) 13 อยู่ตรงตำแหน่ง ทาสา นั่นเอง คำถามที่ว่าจะดีหรือไม่ดี? จะยากจนหรือร่ำรวย? คำตอบก็คือ - - 13 มีความหมายว่า มหาอุจจ์ ทีนี้คุณมองเห็นคำตอบได้หรือยัง? ถ้าคุณจำได้ว่า "มหาอุจจ์" แปลว่ายิ่งใหญ่, มีเกียรติ, มีอำนาจอิทธิพล ฯลฯ เราก็ได้คำพยากรณ์ออกมาแล้วว่า เจ้าชาตาจะต้องพึ่งพาตนเองอย่างเหน็ดเหนื่อย กว่าจะตั้งตัวได้เป็นปึกแผ่นและมีเกียรติ ทำไมถึงว่า "เป็นปึกแผ่นและมีเกียรติ"? เพราะ มหาอุจจ์ แปลว่าสูงส่งและมีเกียรติน่ะซีครับ นี่เป็นตัวอย่างในการอ่านเพียงนิยามเดียว หรือจากดวงดาวเดียว เราก็จะได้ข้อมูลของชีวิตมาถึงแค่นี้แล้ว ในการอ่านนิยามอื่นๆ ก็ใช้หลักการอันเดียวกันนี่แหละครับ ขอให้คุณทำความเข้าใจกับวิธีอ่านที่ผมสาธยายฝอยมาให้ฟังนี่ให้ดีเถอะ แล้วคุณจะอ่านได้ทุกๆ นิยามเลย คืออ่านได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรในชีวิตของเขา เพียงแต่จับเอาดาวในนิยามนั้นมาอ่าน และหาตัวสุดท้ายที่อยู่ในฐานปีมาดูว่า มีตัวเลขในฐานบวกคือฐานที่สี่ว่าอะไร มีความหมายอย่างไร แล้วก็อ่านไปตามนั้น ผมจะยกตัวอย่างในการอ่านให้ดูอีกอย่างหนึ่งก็ได้ เช่น คุณอยากจะรู้ว่าการงานของเขาจะเป็นอย่างไร เราก็มองไปที่ภพ กัมมะ ของเขา ตรวจดูว่าเป็นดาวอะไร แล้วก็ตามดาวนั้นไปอีกสองดวงตามสูตร แต่ - เนื้อที่หมดเสียอีกแล้วครับท่าน เห็นจะต้องขอยกยอดไปขยายความกันในตอนหน้าก็แล้วกัน คุณที่อ่านเก่งแล้วรู้แล้วจะผ่านไปก็ได้ แต่คุณที่ยังไม่รู้ก็ติดตามผมไปอย่าให้พลาดเป็นอันขาด เพราะการอ่านฐานที่สี่นี่แหละที่เป็นจุดสำคัญในการศึกษา "เลข 7 ตัวมหัศจรรย์" นี้เป็นอย่างยิ่ง
|