:: บทความโหราศาสตร์ จากเนชั่นสุดสัปดาห์ ::
02-09-2004
การเมืองไทยจะต้องอยู่ในวงจรชั่วร้ายต่อไป (3)
       

เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับที่แล้ว ผมสรุปไว้ว่า ;

"ตลอดเวลา 18 เดือนที่ราหูสถิตอยู่ในราศีเมษหรือราศีทวารนั้น ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่จะเป็นไปทั่วทั้งโลก สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างไม่เคยเกิดมาก่อนไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่จะเป็นไปทั่วทั้งโลกซึ่งทั้งหมดก็คือความฉิบหาย และความเดือดร้อนอันยิ่งใหญ่ของประชาชนอย่างคาดไม่ถึง"

เหตุการณ์ประเภทที่ว่านี้ ยังจะเกิดขึ้นต่อไปอีก นับจากวันที่ 28 มีนาคม 2548 เป็นต้นไปอีก 18 เดือนเมื่อราหูโคจรจากราศีเมษเข้าไปสถิตในราศีมีนผ่านไปแล้ว

ไม่เพียงแต่คุณวลาดิมีร์ ปูติน ที่กำลังจะสู้กับโศกนาฏกรรมถึงขนาดที่จะต้องกระอักเลือดตายจากเหตุการณ์ในรัสเซียเท่านั้น แม้แต่คุณจอร์จ ดับเบิลยู บุชเอง แม้ว่าจะใช้สารพัดเล่ห์เพทุบายอย่างไรในการโกหกพกลมประชาชนอย่างโกหกมาตลอดนั้น ก็ยังไม่แน่ว่า ยังจะมีเงาหัวเหลืออยู่ต่อไปหรือไม่ ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ เพราะตามข่าวนั้นมีข่าวการคัดค้านอย่างเปิดเผยขนาดเดินขบวนประท้วงกันเป็นแสนๆ คนก็ยังมี ในฟลอริด้าที่ถูกพายุหมุนเล่นงานถึงกับอพยพคนหนีตายไป 2 ล้านคนนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก หรือแม้แต่ภูเขาไฟในญี่ปุ่นที่นอนสงบเสงี่ยมมาเป็นร้อยปี ก็เริ่มกระแอมกระไอขึ้นมาแล้ว เพื่อทดลองออกมาระเบิดให้ได้ชื่นชมกัน ในขณะที่ไต้หวันกับบางส่วนของจีนที่กำลังประสบกับภัยธรรมชาติหรือไต้ฝุ่นออรี่อยู่นั้น ก็ไม่รู้ว่าคนจะหนีตายไปได้อย่างไรหมด

ดูมันเป็นความหายนะไปเสียสิ้นทุกหนทุกแห่งทั้งโลกพร้อมกัน ทั้งดินน้ำไฟลม

เมืองไทยเรานั้นดูเงียบๆ อยู่ แต่ภัยมืดที่มันค่อยๆ คุกคามมาที่จะได้เห็นกันจะจะในไม่ช้าไม่นานนักก็จะน่าดูชม ไม่ต้องพูดถึงสามจังหวัดปักษ์ใต้ที่มีการเอาเท้าลูบหน้ารัฐบาลไทยต่อไปโดยการก่อการร้ายที่เคยประกาศจะใช้นโยบายฟันต่อฟันเล่นงานกัน ยังไม่มีวี่แววหรือแม้แต่เศษฝุ่นเศษฝอยว่าจะจับได้ภายในกี่วัน แม้แต่การอุ้มทนายไปฆ่าแก้เครียดเพียงคนเดียวก็ยังเปิดเผยให้ประชาชนรู้ไม่ได้ว่ามันเป็นยังไงมายังไง!

จนกระทั่งถึงวันเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ ที่พรรครัฐบาลเคยหวังว่าจะต้องผูกขาดหากินกันไปตลอด 20 ปีอย่างหวานๆ มาแล้ว ก็ปรากฏว่าพรรคไม่กล้าส่งคนสมัครลงรับเลือกตั้ง ซึ่งก็เป็นความจริงที่พรรคประชาธิปัตย์กระโดดออกมาลองก็ได้คะแนนอย่างท่วมท้น นั่นมันบอกถึงว่าอะไรจะเกิดขึ้น การที่ได้พยายามโกหกตอแหลกันอย่างหนักหน่วงตลอดมานั้น มันจะไม่เป็นความจริงอย่างใด เพราะดวงเมืองยังมีเคราะห์!

ราหูตัวดีนั่นยังคงโคจรอยู่ในราศีเมษ!

เท่านั้นยังฉิบหายกันไม่พอ เสาร์ (7) ได้โคจรลงมาจากราศีมิถุนมาสู่ราศีกรกฎตั้งแต่วันที่ 6 กันยายนและจะโคจรอยู่ในราศีนี้อีกต่อไปเป็นเวลา 2 ปีครึ่งอีกด้วย

เสาร์หรือ 7 นั้น ตำราโหรไทยบอกว่า ถ้า จะทายโทษทุกข์ให้ทายเสาร์ สำหรับประชาชนคนเดินดินทั่วไป แต่ในทางการเมืองนั้น หมายถึงประชาชนพลเมืองที่อาบเหงื่อต่างน้ำ และการผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหารและสินค้าเกษตรทั้งหมดโดยทั่วไป และหมายถึง การเมืองของฝ่ายค้านและการเมืองของคนยากคนจนด้วย

แต่ในตำราโหราศาสตร์ที่มีวางตลาดอยู่บ้างในขณะนี้ ชื่อ โหราศาสตร์เศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งเขียนโดยผมเอง กล่าวรวมๆ ไว้ว่า หมายถึง "(1) การก่อสร้างขนาดใหญ่ (2) กฎหมายที่เกี่ยวกับผู้ใช้แรงงาน (3) ความแตกต่างและความไม่ลงรอยกันในระหว่างนักการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (4) การตายและการโค่นล้มผู้มีอำนาจ (5) อันตรายที่จะเกิดขึ้นแก่ชื่อเสียงของประเทศ (6) คำสั่งห้ามและข้อจำกัดต่างๆ เช่น การจัดระเบียบสังคมด้วยการเดินดมปัสสาวะเยี่ยวหรือการปราบผู้มีอิทธิพลและค้ายาเสพติดที่ทำกันอยู่ (7) การควบคุมด้วยประการต่างๆ (8) การปันส่วน (9) อำนาจและการใช้อำนาจในภาวะฉุกเฉิน (10) ข้าวยากหมากแพง (11) แผ่นดินไหว (12) การสิ้นเปลืองของประชาชนในด้านที่ไม่มีความจำเป็น แต่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ (13) ความพยายามที่ไม่ประสบความสำเร็จของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเงิน (14) การสำรวจทางธรณีวิทยา

ในความหมายเหล่านี้น่าจะหลีกเลี่ยงได้ยาก หรือที่จะนั่งเป่าปี่เป่าขลุ่ยชื่นชมบารมีอภินิหารของใครอยู่นั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะการโคจรของดาวเสาร์ในราศีนี้ จะก่อให้เกิดความสัมพันธ์หรือโยคร้ายขึ้นระหว่างเสาร์ในราศีกรกฎกับดาวเสาร์ที่กุมพฤหัสบดีในราศีธนูในดวงชะตากรุงเทพฯ ที่ทำให้เกิดยุคใหม่ขึ้นมายุคหนึ่ง ที่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์เรียกว่า ยุคมหากาฬ คือยุคฆ่าล้างโคตรโดยพระเจ้าตากสินมหาราช ที่หอบไทยหนีพม่ามาสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่กรุงธนบุรี หลังจากสถาปนากรุงเทพฯ ได้ 10 วันพระเจ้าตากสินและลูกหลานว่านเครือญาติ ถูกนำไปประหารชีวิตมากกว่า 100 คน นั่นเพราะการกุมกันของเสาร์และพฤหัสบดีในลักษณะการโคจรวิปริต คือ ถอยหลัง!

สำหรับ 2 ปีครึ่งข้างหน้านี้ อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่เสาร์จรลงมาเป็น อริ หรือเป็น 6 ต่อเสาร์ราหูเดิมที่ราหูทับอาทิตย์อยู่ในราศีเมษนั้น ก็น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างไม่มากก็น้อยตามความหมายที่ตำราโหราศาสตร์ได้เปิดเผยไว้

เฉพาะอย่างยิ่ง ทางดานการเมือง จะเละเทะระยำตำบอนอย่างถึงที่สุด และจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ต่อไป ถึงจะไม่เรียกว่ายุคมหากาฬเหมือนตอนสร้างกรุงเทพฯ ใหม่ๆ ก็ตาม แต่ก็คงน่าดูชม ลางร้ายนานาชนิดจะปรากฏให้เห็นโฉมหน้าเป็นลำดับไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2548 อันเป็นวันที่เสาร์โคจรย้อนกลับไปทางราศีมิถุนอีกครั้งหนึ่งจากบริเวณ 3 องศาเศษในราศีกรกฎ สถานการณ์ต่างๆ ก็จะเขม็งเกลียวขึ้นเป็นลำดับ เพราะการโคจรของเสาร์ที่ว่านี้ ถูกรุมล้อมด้วยดาวร้ายที่สำคัญอีก 3 ดวง คือ มฤตยู เนปจูน พลูโต การออกมาฟาดหัวฟาดหางของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะประมาทไม่ได้

นักกินบ้านกินเมืองที่มีบารมีทั้งหลาย ที่พากันอยู่เย็นเป็นสุข ก็เห็นจะต้องเตรียมเสื่อเตรียมหมอนไว้บ้าง เพราะถ้ามันจะเกิดขึ้นอย่างที่ว่าแล้วนั้น กว่าจะเดินทางให้ถึงนรกขุมใดขุมหนึ่งคงจะเดินทางไกลนานพอสมควร

หรือที่ว่ากันว่า ทิพยอาสน์เคยอ่อนแต่ก่อนมา กระด้างดังศีลาประหลาดใจ ขึ้นมาก็เป็นได้

สำหรับประชาชนคนสามัญ หรือ อบต. ทั้งหลายที่ได้กินเล็กกินน้อยมาตลอด หรือเที่ยววิ่งฆ่าวิ่งกินอยู่นั่นก็เหมือนกัน เตรียมใช้กรรมใช้เวรที่ทำเอาไว้บ้างก็จะสวย

เท่านั้นยังไม่พอ เสาร์ในราศีกรกฎที่โคจรลงมานั่งทำงานอยู่นั้น เป็นตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะปลุกเร้าคัดค้านการกระทำอันไม่ชอบมาพากลทุกชนิดของไพร่ฟ้าประชาชนที่มีสติปัญญาให้ลุกฮือขึ้นประกาศอิสรภาพหรือความถูกต้องของประชาชนและบ้านเมืองโดยไม่ลดราวาศอกใดๆ กับเจ้าบ้านผ่านเมือง นั่นคือ เสาร์จะมีระยะเชิงมุมเป็นอริหรือเป็น 6 กับมฤตยูในราศีกุมภ์ซึ่งนอนพักรออยู่แล้วตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2547 ก็จะช่วยให้ระยะเชิงมุมร้ายหรือความสัมพันธ์ร้ายเกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ การเปิดโปงความชั่วร้ายต่างๆ ที่ทำกันมาอย่างสนุกสนาน ไม่ว่าจะเรื่องมะละกอจีเอ็มโอ หรือการเตรียมเขมือบเป็นแสนๆ ล้านในโครงการไฟฟ้าและโทรคมนาคมหรือรัฐวิสาหกิจก็ตามมันจะฮือฮาขึ้นมาลั่นแผ่นดิน ก็น่าจะพอเชื่อได้ว่าไม่ขัดตำราหรือยกเมฆขึ้นมาบอกเล่ากัน

เฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องที่มฤตยูต้องการเกี่ยวข้อง หรือเป็นหน้าที่ของมฤตยู ก็คือ การต่อสู้กับคอร์รัปชันทุกรูปแบบ จะไม่ยอมให้มีใครสุขหฤหรรษ์ได้มากนัก

เพราะฉะนั้น การพยายามแสวงหาความร่ำรวยโดยการกอบโกยผลประโยชน์ทุกรูปแบบ รวมถึงการอาศัยกิจการต่างประเทศเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น เสาร์มฤตยูคู่นี้เมื่อได้จังหวะแล้วจะไม่อภัยให้ง่ายๆ!

ก็น่าจะระวังตัวกันหน่อย มันจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ แต่ตำราโหราศาสตร์ที่เขาใช้กันทั้งโลกก็ว่ามายังงั้น ผมก็เอามาเล่าสู่กันฟังเท่านั้นเอง

เชื่อได้หรือไม่ได้ ผมก็ไม่ขาดทุนขาดรอนอะไร

ที่น่ากลัวอยู่อีกอย่างหนึ่งซึ่งยังไม่ได้แสดงบทบาทออกมาก็คือ การโคจรของเสาร์ในราศีกรกฎนั้น มันบังเอิญไปเป็นโยคกับดาวร้ายทางการเมืองอีกดวงหนึ่งที่นักโหราศาสตร์การเมืองทั้งโลกต้องยอมรับนั้นก็คือพลูโตราศีพิจิก

ความหมายของพลูโตนั้นตำราโหราศาสตร์ชื่อ โหราศาสตร์เศรษฐกิจการเมือง นั้น มีความหมายอย่างน้อย 40 ประการ ผมขอนำความหายนะที่เกิดจากพลูโตนั้นมาเสนอได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น คือมันหมายถึง

(1) กลุ่มอาชญากรและอาชญากรรมที่ทำกันใต้ดินทุกชนิด (2) การชุมนุมและการประท้วงของฝูงชน (3) สงคราม (4) อาชญากรรมทางเพศ (5) การหลอกต้มหรือการถูกขู่รีดไถเอาเงิน (6) แก๊งอาชญากรรมที่ทำงานกันเป็นกลุ่มเป็นระบบ (7) การก่อการร้าย (8) การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ทางการเมือง

ผมมีความเชื่อมั่นว่าทุกอย่างทุกสิ่งเราหวังและฝันกันอยู่จะไม่เกิดขึ้น หรือผมขอเตือนให้ทุกคนระวังตัวและสถานการณ์ใหม่ๆ เฉพาะนักการเมืองที่จะหันหน้าเข้าคลุกกับมันใน ระยะนี้ ขอให้หยุดยั้งไว้ก่อน เพราะการเมืองต่อไปนี้ทำให้คนเป็นคนดีไม่ได้นอกจากเป็นโจรหรือเป็นขยะธรรมดาเท่านั้น มันจะไม่มีประโยชน์อะไรแก่ประเทศชาติประชาชนหรือตัวคุณเอง นอกจากเสียคนไป บางคนก็อาจจะได้ 20 ล้านบาทที่จะเอามาซื้อคนที่เขาต้องการเท่านั้น และ 20 ล้านบาทก็เอาไปซื้อเสียงไม่พอด้วย

ผมบอกด้วยความห่วงใยเท่านั้น ก็รู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีใครสนใจหรอกครับ!

  • ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น สุดสัปดาห์ www.nationweekend.com
©Copyright ? 2004-2008 Payakorn.com All rights reserved.